หลายท่านเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ เวลาที่เราเข้าไปที่เว็บไซต์แล้วเกิดอาการกระตุก หรือใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้วเกิดอาการค้างทำให้เราหงุดหงิด ทั้งที่อินเทอร์ของเรานั้นก็แรงอยู่พอสมควร และนี้คือสาเหตุที่เลือก Bandwidth ไม่เหมาะสมกับข้อมูลของเว็บไซต์นั้นเอง หากใครที่กำลังจะเปิดเว็บไซต์นั้นที่ให้บริการที่มีความเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตล่ะก็ “แบนด์วิชท์” คือสิ่งหนึ่งที่จำเป้นต้องศึกษาเอาไว้เลยก็ว่าได้

ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะมันมีผลต่อเว็บไซต์เป็นอย่างมาก และวันนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกท่านได้ทราบกันว่า Bandwidth (แบนด์วิชท์) คืออะไรล้วควรใช้ขนาดเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับรูปแบบเว็บไซต์ของเราเพื่อไม่เกิดปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาในภายหลัง

ทำความรู้จักกับ Bandwidth กันก่อนว่าคืออะไร

แบนด์วิชท์ เป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูลจากสถานที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งนั้นเอง หากเราทำกรรสร้างเว็บไซต์ขึ้นมานั้นก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของการที่ผู้คนเข้ามาในเว็บไซต์ของเรานั้นมีมากน้อยแค่ไหนเพื่อในผู้ที่เข้ามาไม่พบปัญหาในข้างต้นที่เราได้อธิบายไปแล้ว หากใครยังไม่ได้อ่านตอนต้นให้กลับไปอ่านก่อนจะได้เข้าใจนะค่ะ แต่ช่วงแรกเราอาจจะเริ่มจากน้อยๆก่อนแล้วค่อยเพิ่ม แบนด์วิชท์ จากผู้ในบริการภายหลังได้

หรือถ้าหากทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเช่นใช้กับระบบกล้องวงจรปิดกล้องหนึ่งตัวต้องใช้แบนด์วิดท์ประมาณ 2Mbps สมมติว่าเรามีกล้อง 20 ตัว แบนด์วิดท์ที่เราต้องการคือ 40 Mbps นั้นเอง

หลักการแบนด์วิดธ์

ลองนึกภาพง่ายๆเหมือนนึกถึงท่อน้ำประปาขนาดใหญ่ของหมู่บ้าน นั่นคือการส่งน้ำเพื่อการขนส่งไปยังแต่ละบ้าน หากท่อน้ำเล็กก็ทำให้น้ำไหลช้าและขัดจังหวะ แต่ถ้ามีท่อน้ำขนาดใหญ่จะทำให้การไหลสะดวกสบายและผู้อยู่อาศัยได้รับน้ำเร็วขึ้น

แบนด์วิดธ์มีความสำคัญอย่างไร?

แบนด์วิดธ์เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอินเทอร์เน็ตและโลกแห่งการถ่ายโอนข้อมูล เพราะเมื่อทำการถ่ายโอนข้อมูลจำเป็นต้องใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบันแบนด์วิดท์ที่เลือกมักเป็นเมกะบิตต่อวินาที หรือเป็นหน่วยที่ใหญ่ที่สุดเพื่อให้การไหลของข้อมูลราบรื่นไม่มีสะดุด

จะคำนวณ Bandwidth ให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ได้อย่างไร

การคำนวณแบนด์วิดธ์
หลักการคำนวณความต้องการแบนด์วิดท์ต่อเว็บไซต์ของเรานั้นง่าย: ให้เรารับ (ผู้เข้าชมรายเดือน) X (ขนาดหน้าเฉลี่ยของเรา) X (ผู้ชมรายวันเฉลี่ย) X (วันในหนึ่งเดือน) ) X (ปัจจัยซ้ำซ้อนที่มีค่าตั้งแต่ 1.3-1.8)

ถ้าเว็บไซต์มีการดาวน์โหลดด้วยล่ะ
สำหรับเว็บไซต์ที่อนุญาตให้ผู้ชมดาวน์โหลดไฟล์ได้เช่นกันวิธีการคำนวณนั้นง่าย: (จำนวนหน้าโดยเฉลี่ยที่ผู้เข้าชมดู X ขนาดหน้าเฉลี่ยของเราจำนวนผู้ชมเฉลี่ยต่อวัน) + (จำนวนดาวน์โหลดเฉลี่ยต่อวันขนาดไฟล์เฉลี่ย) X (จำนวนวันใน 1 เดือน) X (ปัจจัยซ้ำซ้อนที่มีค่าตั้งแต่ 1.3-1.8)

เลือกโฮสติ้งที่เหมาะสมกับขนาดแบนด์วิดท์
เมื่อเราเลือกที่จะเช่าโฮสติ้งต้องดูก่อนว่าจำนวนแบนด์วิดท์ที่เราให้บริการต้องมากกว่า 40 เท่าของพื้นที่ที่เช่าโฮสติ้ง ถ้าน้อยกว่านี้มีปัญหา

สมมติว่าเว็บไซต์ของเรามี 5 หน้า ขนาดเฉลี่ยของแต่ละเว็บไซต์คือ 70 KB ซึ่งหมายความว่าขนาดเว็บไซต์โดยรวมของเราคือ 350 KB และจำนวนผู้ที่จะเข้าชมเว็บไซต์ของเราใน 1 เดือนสมมติว่ามีประมาณ 3,000 คน จำนวนแบนด์วิดท์ที่เราต้องการต่อเดือนคือ 2.1 GB ต่อเดือน

แต่งสิ่งสำคัญอีกอย่างก็คืออินเทอร์เน็ตจำเป็นต้อง เช็คความเร็วเน็ต ก่อนสำหรับผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ เพราะหลายปัจจัยมีความเกี่ยวข้องกันไม่ว่าจะเป็น Bandwidth หรือ อินเทอร์เน็ต

บอกความรู้สึกกับเนื้อหานี้
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0